ในปีที่ผ่านมา วงการทำเว็บอีคอมเมิร์ซถือว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก เพราะคนออกนอกบ้านได้อย่างจำกัด ทำให้การจับจ่ายต้องใช้ผ่านแพลตฟอร์มระบบออนไลน์ อีกทั้งร้านค้าไทยก็เพิ่งทะยอยเข้าสู่ออนไลน์ทำให้อาจจะช้าในการปรับตัว ส่งผลให้ร้านค้าต่างชาติกินส่วนแบ่งตลาดร้านค้าไทยไปกว่า 63% และมีโอกาสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

คุณธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด ผู้ให้บริการ “Priceza” เครื่องมือค้นหาสินค้าและบริการเปรียบเทียบราคาในประเทศไทย ได้แนะนำ 5 เทรนด์อีคอมเมิร์ซที่ผู้ประกอบการห้ามพลาด ดังนี้

E-commerce Boom creates high competition
คาดการณ์มูลค่าตลาด การ ทําเว็บ e-commerce อีคอมเมิร์ซในช่วงสถานการณ์โควิด19 ของตลาด B2C และ C2C ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น 81% จาก 163,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 294,000 ล้านบาทในปี 2020 จากข้อมูลของไพรซ์ซ่าพบว่าในปี 2020 จำนวนสินค้าใน 3 แพลตฟอร์มอย่าง Lazada Shopee และ JD CENTRAL มีจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 32%

และเมื่อดูผู้ขายจะพบว่า จำนวนพ่อค้าแม่ค้าในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นสูงถึง 50% ด้วยกัน ชี้ให้เห็นถึงการปรับตัว และเข้ามาแข่งขันในตลาดออนไลน์มากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าจำนวนของพ่อค้าแม่ค้าในไทยจะมีมากขึ้น แต่เมื่อเจาะลึกลงไปกลับพบว่า ส่วนแบ่งการตลาดของจำนวนสินค้าในไทยยังคงเป็นสินค้าจากต่างชาติที่กินส่วนแบ่งกว่า 63% เลยทีเดียว

Direct to Consumer
หลายๆแบรนด์หันมาสร้างช่องทาง ทําเว็บไซต์ ขายของออนไลน์ โดยตรงสู่ผู้บริโภค โดยไม่ผ่านช่องทางการกระจายสินค้าเช่นเดิม จำนวนร้านค้า Brand Official Shop ใน Shopee Mall และ Laz Mall มีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นกว่า 46%

ชี้ให้เห็นถึงแบรนด์ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้า ตลอดจนลูกค้าก็มีความรู้สึกมั่นใจได้ว่าการได้ซื้อสินค้าโดยตรงกับแบรนด์จะได้รับสินค้าที่ถูกต้อง ของแท้แน่นอน

From search base shopping to Discovery-base Shopping
สมัยก่อนคนอยากซื้ออะไรก็พิมพ์ค้นหาบน Search Engine หน้าที่ของคนขายจึงต้องทำให้ตัวเองเกิดการค้นเจอ แต่เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้เราไม่ต้องค้นหาสินค้าอีกต่อไป

แต่กลับกัน สินค้ามันเรียนรู้สิ่งที่เราสนใจ และค้นหาจนโผล่มาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเราจนโดนป้ายยา อุดหนุนสินค้านั้นๆในที่สุด จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า 53% ของออนไลน์ช้อปปิ้งมาจากการที่สินค้าเรียนรู้และค้นหาสิ่งที่ผู้คนสนใจ และอีก 35% มาจากคนเสิร์ชหาข้อมูลสินค้าเอง

Influencer Commerce
KOL หรือ Key Opinion Leader จะได้รับความนิยมพุ่งสูง จากข้อมูลสถิติของ South China Morning Post 2019 พบว่า 60% ของรูปแบบ Social Marketing ที่มีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการมากที่สุด คือ KOL

เห็นได้จากกรณีศึกษาของประเทศจีนที่แบรนด์สินค้าจะนิยมจ้างดารา นักแสดง หรือผู้ที่มีชื่อเสียงมาโปรโมทสินค้าไม่ว่าจะเป็นผ่าน Live สด หรือ บนโซเชียลมีเดียโพสต์ต่างๆ ซึ่งได้สร้างยอดขายถล่มทลายให้กับแบรนด์สินค้านั้นๆ สิ่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ Social Marketing ที่น่าจับตามองในปี 2021

Convergence of Platform
การขยายตัวของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จากจุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์มที่เน้นให้บริการเดียว ได้ขยายตัวให้บริการในด้านอื่นๆกันมากขึ้น จากภาพเราจะเห็นได้ชัดเจนว่า หลายๆแพลตฟอร์มได้ขยายตัวให้บริการตั้งแต่ สื่อ, โฆษณา, อีคอมเมิร์ซ, ธนาคาร ไปจนถึงระบบขนส่ง

จาก 5 Trend ที่ได้กล่าวไปจะเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทั้งการแข่งขันกันของแต่ละแพลตฟอร์ม รูปแบบการทำการตลาด ตลอดจนการแข่งขันของสินค้าจีนที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งหาวิธีพัฒนา สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ตัวเองเพื่อต่อสู้ในสงครามอีคอมเมิร์ซกันต่อไปในอนาคต

ที่มา : thumbsup.in.th